ยาพาราเซตามอล

ยาพาราเซตามอล

พาราเซตามอลเป็นยาแก้ปวดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเมื่อกินอย่างถูกต้อง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการกินยาพาราเซตามอลในปริมาณที่มากเกินไปในระยะเวลานาน อาจทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจากผลเสียร้ายแรงต่อตับ

คุณควรอ่านฉลากหรือเอกสารกำกับยาให้ดีก่อน เพื่อที่จะได้แน่ใจว่าจะไม่กินยาในปริมาณมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องกินยาหลายชนิดในเวลาเดียวกันเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยจากหลายโรค นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก

การกินยาพาราเซตตามอลตามปริมาณที่กำหนดเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการลดอาการปวด ในฉลากยาได้ระบุไว้แล้วว่าการกินยาพาราเซตตามอลมากเกินไปถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่หากกินต่อเนื่องกันนานเกินก็อาจทำให้เสียชีวิตเนื่องจากได้รับยาเกินขนาดได้

กินยาพาราเซตามอลเกินขนาด

ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเตือนในเรื่องความเสี่ยงในการเกิดภาวะตับวายจากการกินยาพาราเซตามอลเกินขนาดเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้ตั้งใจนั้น เกิดขึ้นมากกว่าการตั้งใจกินเพื่อฆ่าตัวตายเสียอีก

นักวิจัยได้กล่าวว่า การได้รับยาเกินขนาดที่กำหนดไว้ แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งได้ศึกษารูปแบบการกินยาพาราเซตามอลจากผู้ที่ใช้ยาพาราเซตามอลมากกว่า 600 คนที่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในแผนกปลูกถ่ายตับ ที่ประเทศสก็อตแลนด์มานานกว่า 16 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตับเป็นพิเศษหลังจากที่ได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ

การกินยาพาราเซตามอลเกินขนาดในแต่ละบุคคล หมายถึง การกินยาพาราเซตามอลในขนาดที่อาจก่อให้เกิดพิษต่อตับได้ (มากกว่า 4 กรัมต่อวัน หรือมากกว่า 8 เม็ด ในขนาดเม็ดละ 500 มิลลิกรัม) ภายใน 7 วันก่อนเข้ารับการรักษาที่แผนกปลูกถ่ายตับนี้

การศึกษาที่ตีพิมพ์จากวารสารบริติช เจอร์แนล ออฟ คลินิคอล ฟาร์มาโคโลยี กล่าวว่า ผู้คนที่กินยานี้เพื่อรักษาอาการปวดเรื้อรังอาจไม่ได้ตระหนักว่าเขากำลังกินยามากเกินขนาด หรือไม่ได้ตระหนักถึงอาการผิดปกติเมื่อเกิดการบาดเจ็บต่อตับจากการกินยาเกินขนาด ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้นานๆความเสียหายที่ตับได้รับอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต

การกินยาพาราเซตตามอลเกินขนาด เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะตับวายเฉียบพลันในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเช่นอังกฤษ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยกินยาพาราเซตตามอลหลายๆเม็ดเข้าพร้อมกันในทีเดียว ในขณะเดียวกันแพทย์มีความวิตกกังวลว่าการที่ผู้ป่วยกินยาพาราเซตตามอลเป็นปริมาณมากเกินกว่าที่เหมาะสมไปเพียงเล็กน้อยอาจเป็นความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากปัญหานี้มักไม่ค่อยได้รับการสังเกตหรือสนใจ

ผู้ป่วยอาจเผลอกินยาพาราเซตามอลและยาชนิดอื่นที่มีส่วนผสมของตัวยาพาราเซตามอลพร้อมกันในเวลาเดียวโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นกินยาพาราเซตามอลในรูปแบบปกติไปพร้อมกับยาแก้ปวดศีรษะ ผู้ป่วยรายนั้นอาจมาโรงพยาบาลเพียงแค่อาการรู้สึกไม่สบาย โดยไม่ได้แจ้งให้แพทย์ทราบว่าได้กินยาเข้าไปแล้วกี่เม็ด

วิธีกินยาพาราเซตามอลอย่างปลอดภัย

ปริมาณที่เหมาะสมของยาพาราเซตามอลนั้นขึ้นอยู่กับอายุของผู้ใช้ พาราเซตามอล 1 เม็ดมักมีปริมาณ 500 มิลลิกรัม

  1. รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด ไม่เกินวันละ 4 ครั้ง แต่ไม่ควรกินเกิน 8 เม็ดใน 1 วัน
  2. ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 5 วัน ถ้าใช้ยานี้เกินขนาดที่ระบุไว้บนฉลาก จะทำให้เป็นพิษต่อตับได้
  3. หากมีความผิดปกติ หรือมีอาการข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร บวมบริเวณตับ ให้รีบพบแพทย์ทันที
  4. ผู้ที่เป็นโรคตับ โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้

การกินยาเพื่อรักษาโรคต่างๆไม่ว่าจะเป็นยาชนิดใดก็ตาม การกินยาให้ถูกต้องทั้งชนิด ปริมาณ และเวลานั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้การกินยานั้นมีประสิทธิภาพและความ ปลอดภัย

กินยาพาราเซตามอลกับแอลกอฮอล์เป็นพิษต่อตับ

ตับเปรียบเสมือนแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ดังนั้นผู้คนจำเป็นต้องระวังเกี่ยวกับทุกเรื่องที่อาจทำให้เกิดผลเสียต่อตับ

นี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกันว่าทำไมผู้คนจึงได้รับการเตือนเกี่ยวกับการดื่มสุราและแอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่ควรกินยาพาราเซตามอลควบคู่ไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

แอลกอฮอล์มีพิษสะสมต่อตับในระยะยาว ในขณะเดียวกัน ตับเป็นอวัยวะหลักในการสลายยาพาราเซตามอลออกจากร่างกาย ซึ่งหมายถึง คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากพร้อมกับกินยาพาราเซตามอลคู่กัน เป็นการจับคู่ที่อันตราย

สำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์นั้น เพื่อความปลอดภัยควรลดขนาดยาพาราเซตามอลลงเพื่อให้ตับไม่ต้องทำงานหนักเกินไป

อย่ากินยาพาราเซตามอลโดยไม่จำเป็น

มีคนจำนวนมากที่พยายามกินยาแก้ปวดเพื่อป้องกันอาการปวดล่วงหน้า หรือกินเมื่อคิดว่าอาจจะมีอาการปวดเกิดขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด

ยาแก้ปวดเช่น พาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟน ควรกินก็ต่อเมื่อมีข้อบ่งชี้เท่านั้น ไม่ควรกินยาเหล่านี้ล่วงหน้าเมื่อคิดว่าวันนี้อาจจะต้องมีงานยุ่งจนปวดหัว ซึ่งเป็นการกินยาเกินขนาดและนำไปสู่การบาดเจ็บของตับ

การกินยาพาราเซตตามอลมากกว่าปริมาณที่กำหนดนั้นไม่ได้ช่วยลดอาการปวดได้มากขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใด และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณอย่างร้ายแรง ดังนั้นเมื่ออาการปวดยังไม่หาย แทนที่จะกินยาพาราเซตตามอลเพิ่ม ควรเปลี่ยนเป็นกินยาแก้ปวดชนิดอื่นๆร่วมด้วย หรือไปพบผู้เชี่ยวชาญที่สามารถจะช่วยหาสาเหตุของอาการปวดได้ หากอาการปวดไม่ลดลงหลังกินยาพาราเซตามอลมาแล้วถึง 3 วัน ก็ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลดีกว่า

"การกินยาพาราเซตามอลปริมาณมากในครั้งเดียวอาจทำให้ตับวายและตายไปในที่สุด"

Credit: www.medicthai.com